top of page
1.jpg

หลายคนติดตั้งแค่ WIfi แล้วมีปัญหา สัญญาณไม่ทั่วถึงทั้งบ้าน เดินไปอีกห้องแล้วเน็ตหลุด อินเตอร์เน็ตช้า บางมุมแทบไม่มีสัญญาณเลย แต่ Wi-Fi แบบ Mesh” ออกแบบมาแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ

Wi-Fi Mesh เป็นระบบที่ใช้ “หลายจุดกระจายสัญญาณ” (เรียกว่า Node)
ทำงานร่วมกันเป็นเครือข่ายเดียวกัน เวลาเดินไปมุมไหนของบ้าน ระบบจะสลับสัญญาณให้อัตโนมัติ ไม่สะดุด

บ้านแบบไหนควรใช้ Wi-Fi Mesh?

1. บ้านขนาดกลาง ใหญ่ (มากกว่า 100 ตร.ม.)

ถ้าราวเตอร์ตัวเดียวไม่ครอบคลุมทั้งบ้าน (โดยเฉพาะบ้าน 2 ชั้นขึ้นไป)

Mesh ช่วยกระจายสัญญาณทั่วถึงทุกมุม

4. บ้านรูปทรงซับซ้อน (ตัว L / ตัว U / ลึก)

ถ้าตัวบ้านไม่ได้เป็นทรงสี่เหลี่ยมปกติ Mesh เหมาะมาก เพราะสัญญาณ

จะไหลตาม Node ที่ติดตั้ง

2. บ้านหลายชั้น / ผนังหนา ผนัง ปูน คาน หรือประตูเหล็กมักบล็อก

สัญญาณ Wi-Fi ได้ Mesh ช่วยปล่อยสัญญาณจากหลายจุด

ลดจุดอับสัญญาณ

3. บ้านที่ใช้อุปกรณ์ Smart Home จำนวนมาก

บ้านที่มีกล้อง Wi-Fi, Smart TV, Smart Plug, Sensor ต่างๆ

หลายจุด ต้องการสัญญาณเสถียร Mesh กระจายโหลดได้ดี

ไม่แออัดเหมือนราวเตอร์จุดเดียว

5. บ้านที่มีบริเวณนอกบ้าน (เช่นสวนหรือลาน) อยากได้ Wi-Fi นอกบ้านด้วย

แค่เพิ่ม Node อีกตัวก็ขยายสัญญาณออกไปได้ง่าย

1 (1).jpg

ข้อดีของ Wi-Fi Mesh

1. อินเทอร์เน็ตไม่หลุดแม้ย้ายตำแหน่งในบ้าน

2. ครอบคลุมพื้นที่กว้า'

3. ระบบจัดการอุปกรณ์อัจฉริยะ

4. ขยายจุดกระจายสัญญาณเพิ่มภายหลังได้ง่าย

bottom of page