
หลายคนติดตั้งแค่ WIfi แล้วมีปัญหา สัญญาณไม่ทั่วถึงทั้งบ้าน เดินไปอีกห้องแล้วเน็ตหลุด อินเตอร์เน็ตช้า บางมุมแทบไม่มีสัญญาณเลย แต่ Wi-Fi แบบ Mesh” ออกแบบมาแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ
Wi-Fi Mesh เป็นระบบที่ใช้ “หลายจุดกระจายสัญญาณ” (เรียกว่า Node)
ทำงานร่วมกันเป็นเครือข่ายเดียวกัน เวลาเดินไปมุมไหนของบ้าน ระบบจะสลับสัญญาณให้อัตโนมัติ ไม่สะดุด
บ้านแบบไหนควรใช้ Wi-Fi Mesh?

1. บ้านขนาดกลาง ใหญ่ (มากกว่า 100 ตร.ม.)
ถ้าราวเตอร์ตัวเดียวไม่ครอบคลุมทั้งบ้าน (โดยเฉพาะบ้าน 2 ชั้นขึ้นไป)
Mesh ช่วยกระจายสัญญาณทั่วถึงทุกมุม

4. บ้านรูปทรงซับซ้อน (ตัว L / ตัว U / ลึก)
ถ้าตัวบ้านไม่ได้เป็นทรงสี่เหลี่ยมปกติ Mesh เหมาะมาก เพราะสัญญาณ
จะไหลตาม Node ที่ติดตั้ง

2. บ้านหลายชั้น / ผนังหนา ผนัง ปูน คาน หรือประตูเหล็กมักบล็อก
สัญญาณ Wi-Fi ได้ Mesh ช่วยปล่อยสัญญาณจากหลายจุด
ลดจุดอับสัญญาณ

3. บ้านที่ใช้อุปกรณ์ Smart Home จำนวนมาก
บ้านที่มีกล้อง Wi-Fi, Smart TV, Smart Plug, Sensor ต่างๆ
หลายจุด ต้องการสัญญาณเสถียร Mesh กระจายโหลดได้ดี
ไม่แออัดเหมือนราวเตอร์จุดเดียว

5. บ้านที่มีบริเวณนอกบ้าน (เช่นสวนหรือลาน) อยากได้ Wi-Fi นอกบ้านด้วย
แค่เพิ่ม Node อีกตัวก็ขยายสัญญาณออกไปได้ง่าย
.jpg)
ข้อดีของ Wi-Fi Mesh
1. อินเทอร์เน็ตไม่หลุดแม้ย้ายตำแหน่งในบ้าน
2. ครอบคลุมพื้นที่กว้า'
3. ระบบจัดการอุปกรณ์อัจฉริยะ
4. ขยายจุดกระจายสัญญาณเพิ่มภายหลังได้ง่าย
